ประวัติและความเป็นมา
อุปกรณ์และรูปแบบในการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 3 อุปกรณ์
1. แทรมโพลีน รูปแบบของการแข่งขันมี 2 รูปแบบ
1.1 ท่าบุคคล (Individual)จะประกอบไปด้วย 3 ชุดคือ ท่าชุดที่ 1 ท่าบังคับ ท่าชุดที่ 2 ท่าเลือก และท่าชุดที่ 3 ท่าเลือกเข้าสู่ชุดชิงชนะเลิศ ในแต่ละท่าชุดจะประกอบไปด้วย 10 ท่าที่จะต้องมีความแตกต่างกันในทุกๆของการกระโดดที่ต่อเนื่องกัน
1.2 ท่าแข่งขันคู่ ( Trampoline syncronize) ประกอบไปด้วยนักยมนาสติก 2 คนที่ทำท่าเหมือนกันบนแทรมโพลีนของแต่ละคนซึ่งติดตั้งในระยะห่าง 2 เมตรติดต่อกัน เพื่อทั้งสองคนจะได้เห็นและได้ยินว่าคู่ของตัวเองทำอะไร การแข่งขันในอุปกรณ์นี้จะเน้นในเรื่องของความพร้อมเพรียงกันมากกว่าการทำท่ายากและเป็นการแข่งขันที่มักจะได้รับควานิยมชื่นชมจากผู้เข้าชมการแข่งขันมากกว่าในการแข่งขันท่าบุคคล และท่าชุดที่ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องมีความยากเท่ากับการแข่งขันในท่าบุคคล
2. มินิแทรมโพลีนคู่ ( Double mini trampoline)
ลักษณะของการทำท่าก็คือ นักยิมนาสติกจะวิ่งไปทำท่า 1ท่ายืนบนแทรมและอีก 1 ท่าจะเป็นท่าจบยืนบนฟลอร์ ในการแข่งขันในระดับโลกนักยิมนาสติกได้มีการพัฒนาความสามารถไปอย่างรวดเร็ว เช่น การทำลังกา 3 รอบ และท่าที่ถือว่าเป็นท่าธรรมดาสำหรับนักยมนาสติส่วนใหญ่ เช่น การทำลังกา 2 รอบและต่อด้วย 3 รอบติดต่อกัน ในบางส่วนของมินิแทรมโพลีนคู่จะมีความแตกต่างจากแทรมโพลีนก็คือ การทำท่าจะเน้น มากในเรื่องของพลังและความเร็ว และเทคนิคการทำท่าลังกาเกลียวก็จะเป็นลักษณะเฉพาะของอุปกรณ์ชนิดนี้ มินิแทรมโพลีนคู่เป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมมากอีกการแข่งขันหนึ่ง
3. พาวเวอร์ทัมลิ่ง (Power Tumbling)
จะเน้นในเรื่องของพลัง ความเร็ว และความแข็งแรง และการทำท่าจากเท้าไปสู่มือ มือไปสู่เท้า และเท้าไปสู่เท้า เล่นบนฟลอร์ยาว 25 เมตร ฟลอร์ทางวิ่ง10 เมตร กว้าง 2 เมตร และสูง 30 ซม และสู่ท่าจบบนฟลอร์ ขนาด กว้างx ยาว =3x 6 เมตร
การตัดสินให้คะแนน
ท่าชุดที่ต้องแสดง 3 ครั้งในแต่ละอุปกรณ์กรรมการจะดูในเรื่องของเทคนิคในการทำท่า ความสูงในการกระโดด การควบคุมร่างกาย และความยากง่ายของการทำท่า เช่น ถ้าเทคนิคในการทำท่าไม่ดี ไม่มีการควบคุมและจัดระเบียบร่างกายตัด 1 คะแนนต่อคะแนนเต็ม 10 และการตัดคะแนนสูงสุดตัด 0.5 ในแต่ละท่า ระดับความยากง่ายนั้นจะนำมาจากคะแนนในตารางท่าความยาก กฎพื้นฐานก็คือ ในการทำท่าลังกา 1 รอบทุกๆท่าจะมีค่าคะแนน 0.5 และท่าเกลียวครึ่งรอบมีค่าคะแนน 0.1 ท่าที่ยากกว่าจะมีค่าคะแนนมากกว่า แต่ในการแข่งขันคู่นั้นมีค่าคะแนนสูงสุด 10 คะแนนต่อกรรมการ 1 คน